ริชชาร์ท วากเนอร์ (Richard Wagner) เกิดมาในครอบครัวชาวเยอรมัน อาศัยอยู่ในเมืองไลพ์ซิก รับบัพติสมาที่โบสถ์เซนต์โทมัส เป็นลูกคนที่เก้าของ คาร์ล ฟรีดริช วากเนอร์ (Carl Friedrich Wagner) ผู้เป็นเสมียนในหน่วยงานตำรวจของเมืองไลพ์ซิก และภรรยาของเขา โจฮันนา โรซีน (Johanna Rosine) เป็นลูกสาวของคนทำขนมปัง คาร์ล วากเนอร์ (Carl Wagner) เสียชีวิตจากโรคไข้รากสาดใหญ่หกเดือนหลังจากที่ริชชาร์ทเกิด ผู้เป็นแม่จึงต้องไปอาศัยอยู่กับเพื่อนของคาร์ล นักแสดงและนักเขียนบทละคร ลุดวิก เกเยอร์ (Ludwig Geyer)
ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1814 โยฮันนาและเกเยอร์แต่งงานกัน แม้ว่าจะไม่พบเอกสารการจดทะเบียนของทั้งสอง ในโบสถ์ที่เมืองไลพซิก เธอและครอบครัวได้ย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของเกเยอร์ในเดรสเดิน วากเนอร์เป็นที่รู้จักในนามวิลเฮล์ม ริชาร์ด เกเยอร์ (Wilhelm Richard Geyer) จนกระทั่งเขาอายุสิบสี่ เขาเกือบคิดว่าเกเยอร์เป็นบิดาผู้ให้กำเนิดแท้ๆ เสียด้วยซ้ำ ด้วยความหลงใหลในการละครของเกเยอร์ไม่ได้หยุดอยู่แค่ตัวเขาเอง เพราะมันถูกส่งต่อผ่านมายังลูกเลี้ยงของเขาด้วย
ปลายปี ค.ศ. 1820 วากเนอร์ เข้ารับการศึกษาต่อใน Pastor Wetzel’s เขาได้รับการสอนเปียโนจากอาจารย์ละตินคนหนึ่ง หลังจากการเสียชีวิตของเกเยอร์ในปี ค.ศ. 1821 ริชชาร์ทถูกส่งไปเรียนต่อที่ Kreuzschule โรงเรียนประจำของ Dresdner Kreuzchor ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ในการดูแลของพี่ชายเกเยอร์ ในปี ค.ศ. 1831 วากเนอร์ก็ได้เรียนต่อในมหาวิทยาลัยไลพ์ซิก ที่ซึ่งเขาได้เป็นสมาชิกของสมาคมนักเรียนชาวแซกซัน 1 ปีต่อมา วากเนอร์ได้สร้างผลงาน Symphony in C major จากนั้นเขาก็เริ่มสร้างผลงานโอเปร่าใน Die Hochzeit ซึ่งมันเขาไม่เคยได้มีโอกาสทำให้เสร็จ
ผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก
ในปี ค.ศ. 1836 วากเนอร์แต่งงานกับนักร้อง มินนา เพลนเนอร์ (Minna Planer) ทั้งคู่ก็ย้ายไป Konigsberg ซึ่งตัววากเนอร์เองได้เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการดนตรีที่ Magdeburg Theatre ในปีนี้เองที่เขาได้สร้างผลงานชื่อ Das Liebesverbot ที่เขาเขียนทั้งเนื้อเพลงและทำนองเองทั้งหมด ในปี ค.ศ. 1842 ผลงาน Rienzi ของ Wagner ซึ่งเป็นโรงละครโอเปร่าการเมือง แสดงรอบปฐมทัศน์ในเดรสเดน
ปีถัดมา The Flying Dutchman ก็ได้ถือกำเนิด พร้อมกับได้รับเสียงความชื่นชมจากผู้คนมากมาย ทำให้เขาได้รับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการโรงละครเดรสเดน ปี ค.ศ. 1848 ในขณะที่เตรียมการสำหรับการผลิตของ Lohengrin ในเดรสเดน ก็เกิดการปฏิวัติขึ้นมาในแซกโซนี ทำให้วากเนอร์ที่เป็นแกนนำทางการเมือง ต้องหลบหนีไปยังซูริคเป็นเวลากว่า 11 ปี วากเนอร์เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1883 ในวัย 69 ปี ในขณะที่พักผ่อนในเวนิส ร่างกายของเขาถูกลับไปฝังที่ไบร็อยท์