Mariss jansons เกิดเมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ.2486 Jansons ได้แต่งงานสองครั้ง เจสันและภรรยาคนแรกของเขาชื่อว่า Ira มีลูกสาวคนหนึ่งชื่อ Ilona นักเปียโนคนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันทำงานอยู่ที่โรงละคร Mariinsky Theatre. Iraida Jansone ผู้เป็นมารดาของเขา มีเชื้อชาติเป็นชาวยิวเขาจึงถูกซ่อนตัวใน Riga, Latvia หลังจากที่แม่ของเขาได้เอาเขาออกมาจากสลัมในเมือง Riga เมื่อตอนเด็กๆ มาริส เจสัน ได้เรียนรู้การเล่นไวโอลินจากพ่อของเขา ซึ่งเป็นผู้ควบคุมวง Arvīds Jansons ผู้ซึ่งได้รับรางวัลในการแข่งขันระดับชาติ ในปี พ.ศ. 2489 แถมยังได้รับการคัดเลือกจาก Yevgeny Mravinsky ให้ไปเป็นผู้ช่วยของเขาที่ Leningrad Philharmonic จากนั้นครอบครัวของเขาจึงย้ายมาอยู่ด้วยกัน ในปี พ.ศ.2499
เจสันได้เข้าเรียนที่ Leningrad Conservatory ซึ่งเขาเลือกเรียนเปียโนถึงแม้ว่าพ่อของเขาอยากที่จะให้เขาเล่นไวโอลินก็ตาม จนถึงปี พ.ศ.2512 เขาได้ฝึกอบรมการเล่นปีโน กับ Hans Swarowsky ในกรุงเวียนนา และฝึกกับ Herbert von ใน Salzburg ต่อมา Karajan ได้เชิญให้เจสันให้มาเป็นผู้ช่วยของเขากับ Berlin Philharmonic แต่เจสันก็โดนขัดขวางเพื่อไม่ให้ได้ทราบข้อเสนอนี้โดยเจ้าหน้าที่ของสหภาพโซเวียต
ในปี พ. ศ. 2522 เจสันได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองผู้อำนวยการของวง Leningrad Philharmonic Orchestra ในปัจจุบันคือวง St. Petersburg Philharmonic Orchestra ต่อมาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการของวง Oslo Philharmonic ซึ่งผลงานของเขาก็มีชื่อเสียงอย่างกว้างขวาง ในปี พ.ศ. 2535 Jansons ได้รับเชิญให้เป็นแขกรับเชิญหลักของวง London Philharmonic Orchestra เจสันร่วมกับ Mahler บันทึกเพลง Symphony No. 6 ไว้ในค่ายเพลง LSO Live ต่อมาในเดือนเมษายนปี พ.ศ.2539 ในออสโล เจสันเกือบเสียชีวิตในขณะที่กำลังเล่นเพลงหน้าสุดท้ายของ Puccini’s La bohème หลังจากที่มีอาการหัวใจวาย เขาจึงได้ไปพักฟื้นในสวิตเซอร์แลนด์ต่อมาศัลยแพทย์ในพิตส์เบิร์กติดตั้งเครื่องกระตุ้นหัวใจในอกเมื่อไฟฟ้าล้มเหลวเพื่อทำให้หัวใจของเขาเต้น ต่อมาในปี พ.ศ.2540 เจสัน กลายมาเป็นผู้อำนวยการอีกครั้ง ให้กับวง Pittsburgh Symphony Orchestra เขาออกจากวงออร์เคสตราในปีพ.ศ. 2547 เพราะผู้ควบคุมกล่าวว่าเจสันมีปัญหาเพราะความล่าช้าของเครื่องบินซึ่งเป็นเหตุที่งี่เง่ามาก และเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาออกจากอเมริกา
ในปี พ.ศ.2549 เจสัน ได้จัดคอนเสิร์ต Vienna Philharmonic New Year’s Concert เป็นครั้งแรก และจัดอีกครั้งในปี พ.ศ.2555 โดยครั้งนี้คอนเสิร์ตของเขาได้ถูกถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ทั่วโลกใน 73 ประเทศ
จากความสามารถและผลงานที่มากมายของเจสัน เขาจึงได้รับรางวัลมากมายเช่น รางวัลเหรียญเกียรติยศ For the Merits before St. Petersburg , รางวัล Cannes Classical Award ในฐานะศิลปินแห่งปี,ได้รับเกียรติจากสถาบัน Phono ในฐานะ Conductor of the Year และรางวัลอื่นๆอีกนับสิบรางวัล