เบโธเฟ่น ชื่อนี้เรารู้จักกันเป็นอย่างดีว่า เค้าคือคีตกวีผู้สร้างสรรค์งานเพลงที่กลายมาเป็นแรงบันดาลใจของเพลงอีกมากมายบนโลกใบนี้ หากจะนับผลงานซิมโฟนีที่เบโธเฟ่นแต่งขึ้นนั้นจะมีทั้งหมด 9 บท (หรือบางทฤษฎีบอกว่ามี 10 บท) ซึ่งแบ่งตามชื่อหมายเลขลำดับที่แต่ง วันนี้เราขอนำเสนอซิมโฟนีหมายเลข 6 บทเพลงแห่งธรรมชาติ
ซิมโฟนีหมายเลข 6 บทเพลงแห่งธรรมชาติ
ซิมโฟนีแต่ละเพลงของเบโธเฟ่นจะมีการแต่งตามธีมแตกต่างกันไป สำหรับหมายเลข 6 นั้นจะเป็นการแต่งเพื่อเน้นการบรรยายความงดงามของธรรมชาติตามแนวคิดของ เบโธเฟน เรารู้กันอยู่ว่าเบโธเฟ่นนั้นชื่นชอบธรรมชาติแบบท้องทุ่งมาก เค้ามักจะเดินเล่นไปตามท้องทุ่งนาในเขตนครเวียนนาเป็นประจำ นั่นทำให้เค้าเก็บภาพความงดงามต่างๆ มาแต่งเป็นซิมโฟนีหมายเลข 6 บทนี้
รายละเอียดของ ซิมโฟนี
ซิมโฟนี หมายเลข 6 นั้นจะมีทั้งสิ้น 5 กระบวน (5 ช่วง) ด้วยกันตรงนี้แตกต่างจากซิมโฟนีอื่นที่จะใช้เพียงแค่ 4 กระบวนเท่านั้นเอง ทั้งหมดใช้เวลา 40 นาที รายละเอียดของกระบวนมีดังนี้ Allegro Ma Non troppo กระบวนแรกจะบอกเล่าเรื่องความสุขเมื่อผู้แต่งเพลงได้มาเยือนท้องทุ่งนาในชนบท มองเห็นท้องทุ่งสีทองสุดลูกหูลูกตา เนินเขาสีเขียวอยู่ไกลๆ มองไปด้านบนจะเป็นปุยเมฆสีขาว เพลงจะเล่นด้วยความเร็วเพื่อแสดงอารมณ์นั้นออกมา
กระบวนที่สอง Andante molto mosso จากความเร็วของกระบวนแรกคราวนี้ เพลงจะช้าลงเป็นจังหวะเนิบนาบ สวยงามเปรียบเสมือนเรากำลังนั่งลงข้างลำธารสายเล็กที่มีสวยงาม มีแสงแดดลอดผ่านกิ่งไม้ลงมากระทบกับพื้นน้ำวิบวับ กระบวนที่สาม Allegro attacca พอเข้ากระบวนนี้ เพลงจะบรรเลงกลับมาเร็วอีกครั้งหนึ่ง เพลงจะบ่งบอกถึงความสนุกสนานของชีวิตชาวนาที่หลังจากทำงานเสร็จ เก็บเกี่ยวผลผลิตทุกคนจะมาร่วมกันล้อมวงทำเพลงจนหายเหนื่อย กระบวนที่สี่ Allegro ซิมโฟนีตรงนี้จะเล่าถึงเรื่องราวของพลังธรรมชาติอย่างฟ้าผ่า และพายุ ที่อาจจะเข้ามาทำให้ชีวิตชาวนาของพวกเค้าหวาดกลัวได้ เพลงจะออกมาทั้งจังหวะเร็ว รุนแรง เหมือนกับพายุและฟ้าผ่า กระบวนที่ 5 Allegretto กระบวนสุดท้ายของซิมโฟนีเหมือนกับจะบอกว่าตอนนี้คือฟ้าหลังฝนอันอบอุ่น เพลงกลับมาความเร็วปานกลาง พร้อมให้ความรู้สึกโล่งใจ สบายใจของผู้คนที่พายุผ่านไป
จะเห็นว่า ซิมโฟนีหมายเลข 6 ไม่ได้เป็นเพียงแค่เพลงอย่างเดียว แต่มันเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของชาวนา หรือ ชนชั้นกสิกรรมที่ดำเนินชีวิตตั้งแต่เริ่มจนจบ ให้อารมณ์ที่หลากหลายทั้งสนุกสนาน หวาดกลัว อบอุ่นในตอนสุดท้าย นี่แหละคือความยอดเยี่ยมของนักแต่งเพลงของโลกนามว่า เบโธเฟน